ฮายยยยยย
ก่อนที่เราจะออฟฟิเชียลลี่จบการศึกษาในระดับปริญญาตรี (ซึ่งจะรับปริญญาตุลานี้)
ตอนที่ความทรงจำเรายังชัด เราอยากพูดเรื่องการใส่ "ชุดนิสิต" หน่อย :))
เราจะข้ามผ่านดีเบททั้งหลายเรื่องชุดนิสิตไป
รวมถึงความคิดและความเชื่อที่มากับชุดด้วย
เช่น เป็นชุดพระราชทาน หรือเป็นชุดที่ไม่ควรนำมาใส่เป็นแฟชั่น
(คือ แก เราอยากสวย เราผิดหรอ
มันก็เป็นชุดที่เราต้องใส่ทุกวัน เราก็อยากดูดีนะ)
เราไม่ได้ใส่อะไรผิดระเบียบ มันอาจจะไม่ได้ดูเป็นนิสิตจ๋ามาก
คณะอื่นอาจจะไม่เป็น แค่เราเห็นถนนเรา (ถาปัตย์-สินกัม-อักษร) ก็ใส่กันแนวๆนี้นะ
ทำให้ดูไม่จำเจ แล้วเราก็ว่าน่ารักดี ไม่ได้ดูไม่เรียบร้อยตรงไหน
ท้ายที่สุดแล้วทุกคนก็รู้ตัวเสมอว่ามีหน้าที่เรียน อย่าดราม่ากันนะ
โพสต์นี้เรารวบรวมมาจากความทรงจำบนถนนสายศิลป์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ส่วนมากเป็นตัวเรากับเพื่อนๆ หรือคนที่เราเห็นแถวๆคณะ
ดูแล้วชอบใจก็อย่าไปบอกใครล่ะ ๕๕๕
1. FRESHY
ตอนเข้ามาปี 1 ทุกคนยังตื่นเต้นกับชุดนิสิต อ่ะ ถือซะว่าเป็นไกด์ในการเลือกชุดนิสิตละกัน
STYLE: ขี้เห่อ, ถูกระเบียบ
SHOP WHERE: ร้าน"มุมทอง" เค้าว่ากันว่าพีค
เสื้อ.
ส่วนตัวเราชอบใส่เข้ารูป ตัวยาวๆหน่อย
มันจะได้ไม่โผล่ขึ้นมาง่ายเวลาใส่ในกระโปรง
(เสื้อนิสิตจุฬามีสาบหลังนะ)
อีกอย่างคือ เวลาเลือกเสื้อนิสิต ให้ดูที่ผ้า กับกระดุมเม็ดแรก
ระวังพวกที่คอลึกเกินไป หรือผ้าบาง สีไม่สวย (สีม่วงๆนึกออกมะ)
เกิดมาชีวิตนี้ไม่เคยใส่เสื้อทับ เลือกผ้าที่หนากำลังดีสบายกว่านะ
กระดุม.
บางคนโชคดี กระดุมโรงเรียนเป็นแบบนี้ เลยใส่เป็น ใส่เร็ว
เรากากมาก ใส่นานมาก และรำคาญมากๆๆๆๆ
B-Bug เป็นพลาสติกที่เอาไว้ใส่กระดุม เร็วกว่าห่วงๆที่เค้าให้มาเยอะ
บางคนก็ใช้เข็มกลัด ก็เร็วดีเหมือนกัน
กระโปรง.
เอวยืด = สบายกว่า ยืดไปตามกิน ๕๕๕
บางคนก็ชอบยืด บางคนก็ชอบแบบมีตะขอ
ระวังเรื่องเนื้อผ้า!!
หนาๆหรือมีซับใน จะบอกว่า "ร้อนมาก" ร้อนแทบตาย
แต่ถ้ารักจะใส่บาง เวลาขึ้นบีทีเอสหรือลมแรงๆนี่ เปิดจริงๆนะแก
ชั้นเคยมาริลีนมอนโรมาแล้วกลางใต้โถงคณะ ไม่ตลกนะ อายจริงๆ
เรื่องสี อักษรใส่สีกรมท่า แต่ถ้านิเทศปีหนึ่งต้องสีดำ
ใส่ตามคณะก็ดีนะมันดูรู้ดีว่าคณะอะไร
รองเท้า.
ปีหนึ่งจุฬาบังคับให้ใส่รองเท้าขาวสไตล์เปปเปอร์มินท์
แต่สารภาพว่า ตอนเราอยู่ปี 1 เราแทบไม่ใส่เลย (ใส่คัทชูสีขาวคู่อื่น)
หนึ่ง เพราะเปปเปอร์มินท์ขาดตลาดเร็วมาก
ใครอยู่ปีหนึ่ง พอผลออกปุ๊บไปซื้อเลยนะ ๕๕๕๕
พอมันขาดตลาดเราก็ได้มาแบบไซส์ไม่พอดี เลยไม่ชอบใส่ (มันใหญ่ไป)
บวกปีนั้นน้ำท่วมใหญ่ เราใส่ลุยน้ำสยามครั้งเดียว พังจ้า. บาย.
แต่เด็กดีต้องใส่นะ ๕๕๕๕
ทีนี้ มาถึงตัว OPTIONAL
นี่คือไอเท็มมุ้งมิ้งกิงก่องแก้วสารพัดที่เราเพิ่งมารู้จักตอนมหาลัย
คือ "ตุ้งติ้ง" และ "ที่หนีบเข็มขัด"
ตุ้งติ้งมุ้งมิ้งมีขายตามสยาม สำเพ็ง ทำเองก็สวย ไปซื้อก็เก๋
ของมหาลัยก็มี แต่ถ้าเด็ดๆก็ต้องของคณะ เพราะแต่ละคณะจะไม่เหมือนกัน
ตอนปี 1 มีคนบอกว่า "สาวจุฬาที่ใส่ตุ้งติ้งแปลว่ามีแฟนแล้ว"
แต่มันไม่จริงนะ อย่าไปเชื่อ ๕๕๕๕๕
ส่วนตัวเราไม่ใส่ตุ้งติ้งเพราะรำคาญ
ที่หนีบเข็มขัดของเราเป็นแบบนี้ รูปกระต่ายน้อยยย <3
เพื่อนซื้อมาให้จากฮ่องกง
ที่สหกรณ์จุฬาขายที่หนีบเข็มขัดตัว "ฬ" ด้วย เห็นเด็กๆซื้อมาใส่กันเต็มเลย
2. SOPHOMORE, JUNIOR, SENIOR
ณ จุดที่ขึ้นปี 2 เราตื่นเต้นมากกกกก
เพราะรู้ว่าเนี่ยใส่กระโปรงแบบไหนก็ได้แล้ว
ใจก็กะจะมิกซ์แอนด์แมตช์ในแต่ละวันให้สนุกไปเลย
ประหนึ่งนักเรียนไฮสคูลแบบเรื่อง Gossip Girl เอาให้เริ่ดด
ความเป็นจริง: ประมาณปี 2 ยังมีความตื่นเต้น พอปี 4 ก็เริ่มเลิกแต่งหน้าจ้า ๕๕๕
THE BASIC.
กระโปรงสอบคู่ใจของทุกคน คิดว่าคงมีแตกต่างกันไป
สำหรับเราต้องผ้ายืดเท่านั้น
เคยใส่ไม่ยืดแล้วเดินไปคณะ จากผ่าหลังเธอวนมากลายเป็นผ่านหน้า
แนวกระดุมเราก็เบี้ยวไปถึงสีข้าง นี่ไม่โอเคเลยนะ
ซึ่งการเลือกกระโปรงสอบก็อยู่กับคณะแล้วก็กับร่างกายของเราด้วย
เราเห็นบางคณะชอบใส่เอวต่ำ แบบ ต่ำมากกก เราคงใส่ไม่ได้เพราะคงดูหลังยาวพิลึก ตัวแท่งๆ
ชอบใส่เอวสูงเพราะดูมีทรงดี ๕๕๕
และเลือกแบบมีซับในทำให้ไม่เห็น VPL หรือรอยกุงเกงใน (ระวังนะ!!)
THE FORMAL.
ปกติไม่ค่อยเห็นนิสิตที่ใส่สอบยาวถ้าไม่ได้มีงานพิธีอะไร
แต่เราชอบใส่นะเพราะใส่สบายดี
เห็นเพื่อนๆหลายคนในคณะก็ใส่มาเรียนปกตินี่แหละ
เหมาะกับคนมีทรวดทรงหน่อย ดูเป็นนาฬิกาทราย สวยดี
เวลาเราใส่ผ่าหลัง เราแทบจะกลายเป็นดินสอ หัวโตตัวเป็นแท่ง
เราเลยเลือกผ่าหน้าแทน ก็กลับให้ซิปมันมาอยู่ข้างหน้านี่แหละ ง่ายดี
บางคนกลัวว่าใส่แล้วตัวจะตันเพราะปิดข้อเท้า แนะนำให้หาคัตชูเสริมส้นเล็กๆซักนิ้วนึง
แต่ถึงระลึกเสมอว่า ถ้าเธอเดินมาคณะ เธอก็ต้องเลือกรองเท้าที่เดินได้สิ
อย่าทำมั่นใส่ส้นมาเรียน ชั้นเคยแล้ว หน้าทิ่มตรงป้ายรถป๊อบ คิดว่าตลกมั้ย...
THE PREPPY
หลังจบปีหนึ่งเราไม่ค่อยกลับไปแตะพลีต แต่มีไว้ก็ดีเพราะเรียบร้อยสุด
แถมช่วงนี้ค่อยข้างอิน ใส่จัมเปอร์ทับก็น่ารักละ
เราเลือกพลีตที่เข้ากับรูปร่าง คือตัวเป็นแท่งก็ใส่พวกจีบรอบตัวบานๆซะ
ยาวเท่าเข่าพอดีเด๊ะ ดูคุณหนูมาก ๕๕๕๕
เราเห็นช่วงนี้หลายคนเริ่มกลับมาใส่พลีตสั้นกว่าเข่าเล็กน้อยกันแล้ว
จริงๆเราก็ว่ามันดูน่ารักดีนะ แต่สั้นเป็นเซเลอร์มูนนี่ไม่โอเคนะ เพราะผ้ามันเบาม๊ากกก
เด็กจุฬาชอบใส่ยาวๆ เราว่ามันก็ดูจุฬาดีนะ แบบเรียบร้อยสไตล์ ๕๕๕
THE YANKEE
นึกภาพแก็งค์นักเลงสาวญี่ปุ่นในยุค 80s ออกมั้ย
กระโปรงยาวเท่าข้อเท้านี่แหละ ๕๕๕ ได้ลุคนั้นเลย เลือกทรงตรงๆ
เรียบร้อยแต่ก็ดูแบดๆ แถมเวลาสอบโคตรมีประโยชน์ นั่งยังไงก็ไม่โป๊ ๕๕
ข้อเสียคือ ร้อนมากกกกกก อบอ้าวมากกกกกกกกกก
นั่งเรียนแอร์เย็นๆไม่เท่าไหร่ เดินไปไหนมาไหนนี่โอ้โห๊วววว
อบไอน้ำกันเลยทีเดียว
เวลาเราใส่พลีตยาวเราจะใส่กับรองเท้าผ้าใบ กับเสื้อตัวใหญ่หน่อยให้มันดูลุย
อาจจะดูสินกำเล็กน้อย แต่เราชอบพวกเธอมากนะเราเลยทำตาม ๕๕๕
คือมัน practical มากกว่าจะใส่เสื้อฟิตๆกระโปรงรัดๆที่ใส่แล้วทำอะไรไม่ได้
วันไหนขยับตัวเยอะหน่อย นี่ก็เป็นลุคที่เราชอบมาก
เอาแค่นี้ก่อนนะ
เดี๋ยว entry หน้าเราจะแอบเอารูปมิกซ์ยูนิฟอร์มมาให้ชม
บวกวิธีมิกซ์แบบเลเวลอัพนะจ๊ะ !! xx
คำเตือน.
ชุดนิสิต ไม่ว่ายังไงก็คือชุดที่ใส่ไปเรียน
(ถึงจะเรียนแค่ชั่วโมงเดียวหรือบางทีก็สองชั่วโมงก็ตาม)
แต่มันเป็นชุดที่มีความหมายหลากหลายต่อคนหลายแบบ
ถึงจะแต่งแฟชั่นตามใจเราแต่การหักคะแนนมีอยู่จริงในจุฬา
นิสิตโปรดระวังตัว ไม่ก็วิ่งหนีให้มันเร็วๆแล้วบอกชื่อคณะอื่นไป ๕๕๕๕๕๕๕๕๕